ตลอดช่วงทศวรรษที่ 1930 Tissot ได้ทำการทดลองมากมายโดยร่วมมือกับห้องปฏิบัติการสวิสเพื่อการวิจัยการผลิตนาฬิกาของ Neuchâtel ด้วยเหตุนี้ Maison จึงได้เปิดตัวนาฬิกากันน้ำรุ่นแรกๆ เช่น คอลเลกชั่น 'Camping' (1938) และ 'Aquasport' (1939) นอกจากจะป้องกันสนามแม่เหล็กและให้ความแม่นยำสูงมากแล้ว นาฬิกาเหล่านี้ยังมีคุณสมบัติกันกระแทก ซีลกันฝุ่น มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสและกระจกที่ทนทานต่อการแตก
ตอนนั้นในช่วงทศวรรษที่ 1940 Tissot ได้เปิดตัวซีรีส์ 'Five Star' ใหม่ในแคนาดา ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมเหล่านี้เช่นกัน หนึ่งทศวรรษต่อมา เมื่อมีการสร้างนาฬิกากันน้ำที่มีการผนึกกันอากาศที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เราก็นึกถึงสิ่งหนึ่งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ นั่นคือดาว 'ทะเล’ (Seastar)! ชื่อนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าในปี 1952 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นาฬิกาเรือนนี้ก็กลายเป็นรุ่นหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์
ทิสโซต์ภาคภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในคอลเลคชั่น Seastar ที่รอคอยมานาน ผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่น Seastar 40mm ได้รับการเสริมด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ทั้งห้ารุ่นที่มาพร้อมกลไก Powermatic 80 บางคนอาจจำได้ถึงการร่วมมือกันระหว่าง Wilson, WNBA, และทิสโซต์ที่เพิ่งเปิดตัวนาฬิกาอัตโนมัติ 40 มม. ซึ่งปูทางไปสู่นาฬิการุ่นใหม่ที่ให้ความอเนกประสงค์มากขึ้น และยังคงนำเอาวิศวกรรมของสวิสอันเป็นที่ชื่นชอบมาเป็นหัวใจหลัก
ในรุ่นใหม่นี้ ตัวเรือนได้รับการปรับปรุงในรายละเอียดโดยการเพิ่มรอยบากตามขอบตัวเรือน ซึ่งให้รูปลักษณ์ที่กะทัดรัดและละเอียดประณีตยิ่งขึ้น นาฬิกาเหล่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแอคเซสซอรี่สไตล์สปอร์ตที่แสดงตัวตนอย่างมั่นใจ โดยสามารถทนน้ำได้ลึกถึง 30 บาร์ (300 ม./ 1,000 ฟุต) และมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในสภาพแสงสลัวด้วยเข็มและสัญลักษณ์ชั่วโมงที่เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®
ส่วนขยายของคอลเลคชัน Seastar ใหม่ประกอบด้วยห้ารุ่น โดยทุกรุ่นมีหน้าปัดโลหะลายแปรงแนวตั้ง และไล่สีเป็นสีดำไปยังขอบนาฬิกา ยกระดับเอฟเฟกต์การไล่สีและพื้นผิวโดยรวม แต่ละรุ่นมีขอบหน้าปัดเหล็กกล้าแบบหมุนทางเดียว พร้อมวงแหวนกระจกมิเนอรัลพิมพ์ลายสี
สองรุ่นในนั้นมีตัวเรือนสเตนเลสและดีไซน์สายนาฬิกาแบบเดียวกันแต่แตกต่างกันที่สีของหน้าปัด รุ่นหนึ่งมีหน้าปัดสีน้ำเงิน ในขณะที่อีกรุ่นมีหน้าปัดสีเทาอีกรุ่นในส่วนขยายของคอลเลกชันนี้เป็นรุ่นสองสีที่ให้รูปลักษณ์ที่โดดเด่น นาฬิการุ่นนี้เสริมด้วยขอบนาฬิกาเคลือบ PVD สีเหลืองทองพร้อมวงแหวนสีดำ และเสริมด้วยสายนาฬิกาสองสีที่เข้ากัน โดยผสานองค์ประกอบเคลือบ PVD สีเหลืองทองกับสเตนเลส
และสุดท้ายคือนาฬิกาสองรุ่นที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างหายากสำหรับคอลเลกชั่น Seastar ที่มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสเคลือบ PVD สีดำทั้งเรือน รุ่นหนึ่งมาพร้อมกับสายนาฬิกาสีดำทรอปิกกับหน้าปัดโลหะขัดลายสีน้ำเงิน ในขณะที่อีกรุ่นประดับด้วยหน้าปัดโลหะขัดลายสีเทา พร้อมสายนาฬิกาสีดำเมทัลลิกทั้งเส้น
ระบบสายข้อมือแบบถอดเปลี่ยนได้ ให้ทั้งความสามารถในการปรับเปลี่ยนและความสะดวกในการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างสายข้อมือทิสโซต์ที่เข้ากันได้ได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบการเคลื่อนไหว สายนาฬิกาสไตล์สีดำทรอปิคอลจะให้ความโดดเด่นในฐานะผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมาใหม่ล่าสุดในคอลเลคชั่นของทิสโซต์ การเปลี่ยนระหว่างสายข้อมือนั้นทำได้ง่ายมาก โดยเพียงแค่ดึงสายเก่าออกแล้วใส่สายใหม่
ไม่ว่าคุณจะออกผจญภัยริมทะเลสาบหรือออกสู่มหาสมุทร เพลิดเพลินกับวันพักผ่อนริมชายหาด หรือเข้าร่วมงานสังสรรค์ คอลเลกชัน Seastar ได้รับการออกแบบมาเพื่อคุณในทุกโอกาส โดยนำความเป็นสวิสมาเสริมลุคของคุณ
สัมผัสฤดูร้อนในแบบสวิสโดยมี Seastar อยู่บนข้อมือของคุณ
14/6/24
นำเสนอตัวเลือกหน้าปัดและสายข้อมือให้เลือกอย่างหลากหลาย ดึงดูดทั้งผู้คร่ำหวอดและสมาชิกใหม่ในวงการนาฬิกา ซีรีส์ Chemin des Tourelles Skeleton ยังคงดีไซน์แบบดั้งเดิมเอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีหน้าต่างสู่ภายในนาฬิกาที่เชื้อเชิญให้ผู้สวมใส่สังเกตรายละเอียดที่แม่นยำที่ใจกลางของเรือนเวลา.
14/5/24
ผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่น Seastar 40mm ได้รับการเสริมด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ทั้งห้ารุ่นที่มาพร้อมกลไก Powermatic 80
22/2/24
Tissot ประกาศเปิดตัวคอลเลกชัน PR516 รุ่นใหม่ อันเป็นหมุดหมายบทใหม่ในประวัติศาสตร์การทำนาฬิกา
22/7/22
Telemeter 1938 ของทิสโซต์ทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายแทนประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของการจับเวลาการแข่งขันกีฬาที่สวมใส่ได้ดีเยี่ยมในประวัติศาสตร์การจับเวลากีฬาที่เริ่มขึ้น ณ เทือกเขาแอลปส์ และดำเนินต่อมาจวบจนวันนี้ ในการแข่งขันบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ การแข่งขันจักรยานตูร์เดอร์ฟรองซ์ และการแข่งขันจักรยานยนต์ MotoGP และนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาระดับมืออาชีพที่ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในการจับเวลาที่เป็นตำนานของทิสโซต์