ยินดีต้อนรับสู่ร้าน Tissot ออนไลน์ ไทย
เลือกประเทศ / ภูมิภาค
America
Middle East & Africa
ความชำนาญ
;Blur=4&q=1)
Powermatic 80
นาฬิการะบบอัตโนมัติทำงานด้วยพลังงานจากผู้สวมใส่นาฬิกา โดยการเคลื่อนไหวข้อมือช่วยให้กลไกสามารถทำงานได้ พาวเวอร์เมติก 80 (Powermatic 80) สามารถสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการบอกเวลาต่อไปอย่างแม่นยำแม้ไม่ได้สวมใส่นาฬิกามาเป็นเวลา 3 วันก็ตาม เครื่องนาฬิกาซึ่งต้องการให้เป็นนวัตกรรมและมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่โดยทั่วไปแล้วสามารถสำรองพลังงานได้ 1 วันครึ่ง
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
Swissmatic
เครื่องนาฬิกาสวิสเมติก (Swissmatic) เป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริงในอุตสาหกรรมการทำนาฬิกา ความลับของ Tissot ในการนำเสนอนาฬิการุ่นที่มีราคาดึงดูดใจอยู่ที่ห่วงโซ่การผลิตอัตโนมัติ โดยส่วนประกอบต่าง ๆ ถูกผลิต และประกอบตามโมดูลขึ้นเป็นเครื่องนาฬิกาที่สมบูรณ์ สวิสเมติก (Swissmatic) สามารถสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการบอกเวลาอย่างเที่ยงตรงแม้ไม่ได้สวมใส่นาฬิกาเป็นเวลา 3 วันก็ตาม
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
วัลชู (Valjoux)
คาลิเบอร์ อีทีเอ วัลชู (ETA Valjoux) เป็นเครื่องนาฬิกาโครโนกราฟแบบขึ้นลานอัตโนมัติระดับสูงและมีความแข็งแกร่งโดยมีการตกแต่งอย่างสวยงาม อาทิ ลายโคตสเดอเฌอแนฟ (côtes de Genève) หรือ ลายวงกลมวน ได้รับการออกแบบในช่วงทศวรรษที่ 1970 ความเชื่อถือได้และประสิทธิภาพของเครื่องนาฬิการุ่นนี้ได้ทำให้มันสามารถเดินทางข้ามยุคและกลายเป็นหนึ่งในเครื่องนาฬิกาที่สำคัญที่สุดในโลกของการทำนาฬิกา
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
กลไกการขับเคลื่อน
กลไกนาฬิกาของ Tissot ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตอย่างประณีตประมาณ 100 ชิ้น ความสมดุลของล้อจักรต่าง ๆ คือหัวใจสำคัญของกลไกการทำงานเพื่อให้เป็นไปอย่างแม่นยำที่สุด กลไกการขับเคลื่อนย้อนหลังและเดินหน้าแบบต่อเนื่อง ความสมดุลและชุดสปริงปรับสมดุลจะทำหน้าที่แบ่งส่วนเวลาออกเท่า ๆ กัน เพื่อให้ควบคุมการแสดงเวลาได้อย่างแม่นยำที่สุด กลไกการทำงานของสปริงปรับสมดุลหรือการแกว่ง (oscillation) นี้คือสิ่งที่ทำให้เกิดเสียง “ติ๊กต็อก” ของนาฬิกา การแกว่งของกลไกล้อจักรที่สมดุลจะทำงานมากถึง 385,000 รอบต่อวัน
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
Nivachron™
สนามแม่เหล้กที่เกิดขึ้นจากวัตถุอิเล็กทรอนิกส์ (โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ วิทยุ แม่เหล็ก ฯลฯ) ซึ่งเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ Tissot มีความกังวลเรื่องความที่ยงตรงของนาฬิกาของตนเอง จึงได้พัฒนาโลหะผสมชนิดใหม่รุ่นล่าสุดจากไททาเนียมขึ้นมา บาลานซ์สปริงที่ทำจากนิวาครอน™ (Nivachron™) ได้รับการพิจารณาว่ามีความต้านทานและไม่ตอบสนองต่อสนามแม่เหล็กสูงกว่าสปริงมาตรฐาน
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
ซิลิเซียม
ด้วยการปรากฏขึ้นของวัตถุอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงทศวรรษที่ 1930 Tissot ได้นำความรู้ความชำนาญของตนมาให้บริการลูกค้าเพื่อที่สนามแม่เหล็กซึ่งเกิดขึ้นจากวัตถุอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ไม่มารบกวนเครื่องนาฬิกา
อย่างไรก็ตาม สนามแม่เหล็กยังทำให้ช่างทำนาฬิกาไม่มีเวลาว่างต่อไป ด้วยการมาถึงของซิลิเซียมในฐานะวัสดุชนิดใหม่สำหรับส่วนประกอบต่าง ๆ ในชุดควบคุมการทำงานของเครื่องนาฬิกา Tissot สามารถให้การต้านทานที่ดีกว่าต่อสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นจากวัตถุซึ่งถูกนำมาใช้งานในชีวิตประวันได้ อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ไดร์เป่าผม วิทยุ หรือแม้แต่แม่เหล็กปิดกระเป๋าถือ โดยประการดังกล่าว นาฬิกา Tissot จึงมีความเที่ยงตรงมากกว่าเดิม
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
กระจกคริสตัลแซฟไฟร์
คุณสมบัติของกระจกคริสตัลแซฟไฟร์สำหรับนาฬิกา ได้แก่ การทนทานอย่างยิ่งต่อแรงกระแทก และการมองเห็นหน้าปัดรวมทั้งเข็มต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เนื่องมาจากลักษณะโปร่งแสงของกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ วัสดุชนิดนี้ซึ่งมีความแข็งแกร่งรองจากเพชร ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการทำนาฬิกาชั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วนของวัสดุชนิดนี้ กระจกคริสตัลแซฟไฟร์สามารถมีได้หลายรูปแบบและทำให้นาฬิกามีการออกแบบที่แตกต่างกันได้ กล่าวคือ แบน โค้ง กลวง หรือ เจียระไน
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
เพชร
Tissot ตกลงรับประกันแหล่งที่มาของเพชร รวมทั้งคุณภาพของเพชรดังกล่าว - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสี ความบริสุทธิ์ หรือแม้แต่ขนาด - ซึ่งเป็นส่วนประกอบอยู่ในนาฬิกาของแบรนด์ เนื่องจากเพชรเหล่านี้ทุกเม็ดมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การรับรองตามกระบวนการคิมเบอร์ล่ย์ (Kimberley Process) ซึ่งเป็นระบบระหว่างประเทศสำหรับการรับรองเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
ทองคำ
ทองคำเป็นหนึ่งในโลหะที่มีค่าและมีราคาสูงที่สุดในโลก ทองคำเป็นที่รู้จักในเรื่องความเงางามและคุณสมบัติทางเทคนิคจำนวนมาก อาทิ ไม่เป็นสนิม ไม่ละลายน้ำ มีความเสถียร Tissot ใช้ทองคำ 18 กะรัต (18K) ซึ่งเป็นโลหะผสมคุณภาพสูงอันประกอบด้วย ทองคำบริสุทธิ์ 75% ผสมกับส่วนผสมของเงินและทองแดงซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการผลิตทองคำ ด้วยความเชี่ยวชาญและความรู้ความชำนาญของ Tissot ชิ้นงานต่าง ๆ จึงมีอายุการใช้งานอย่างไม่มีที่เปรียบจากรุ่นสู่รุ่น
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
แม่มุกหรือเปลือกหอยมุก
เจริญเติบโตอยู่ก้นทะเล แม่มุกหรือเปลือกหอยมุกมีคุณสมบัติพิเศษจำนวนมาก อาทิ การเปลี่ยนสีเมื่อเปลี่ยนมุมมอง และ เฉดสีเหลือบ โดยการมีลักษณะที่ไม่ซ้ำกัน แม่มุกหรือเปลือกหอยมุกทำให้นาฬิกามีคุณลักษณะเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนนาฬิกาสำหรับสตรี ทั้งบนหน้าปัดและบนส่วนประกอบอื่น ๆ
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
Ceramic
This material, recognised to be one of the hardest substances, has been used at Tissot for decades. It is perfectly suited to the external parts of a watch that is exposed to daily scratching and impacts. Ceramic ingredients include aluminium oxide and zirconium, which means that it will never oxidise no matter how much time passes. That means the watch will never lose its shine. It is known for its hypoallergenic properties and is well suited to any wrist.
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
ซุปเปอร์ลูมิโนว่า® (Super-LumiNova®)
การรับประกันความสามารถในการมองเห็นได้ในทุกสถานการณ์มีความสำคัญยิ่งสำหรับ Tissot ด้วยเหตุดังกล่าว บางชิ้นงานจึงมีวัสดุที่เรียกว่า ซุปเปอร์ลูมิโนว่า® (Super-LumiNova®) วัสดุชนิดนี้อยู่บนส่วนประกอบที่สามารถมองเห็นได้ อาทิ หน้าปัดและเข็มนาฬิกา และทำงานเหมือนตัวสะสมแสงขนาดเล็กซึ่งจะสะท้อนออกมาเมื่อนาฬิกาอยู่ในความมืด
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
การกันน้ำ
ตัวเรือนนาฬิกา Tissot ทุกเรือนเข้ารับการตรวจสอบจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงการกันน้ำ Tissot ทดสอบความสามารถด้านการทนทานต่อแรงกระแทกและแรงดัน รวมถึงการซึมเข้าของของเหลว ก๊าซ ฝุ่นละออง โดยการจำลองสถานการณ์จริงที่นาฬิกาอาจต้องประสบ
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
แสงอาทิตย์
พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดได้ถูกนำมาใช้โดย Tissot เพื่อการทำงานของนาฬิกาคอลเลกชั่นอันเป็นสัญลักษณ์ T-Touch: Expert Solar และ Connect Solar ด้วยเซ็นเซอร์จับแสงอาทิตย์ขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งอยู่ใต้หน้าปัดนาฬิกา แสงที่ได้จะถูกเก็บไว้ในตัวสะสมแสง โดยปกติ พลังงานที่จำเป็นสำหรับการทำงานของระบบควอทซ์จะมาจากแบตเตอรี่หนึ่งก้อน แต่ในที่นี้ พลังงานจะมาจากแสงธรรมชาติหรือแสงเทียม ด้วยเทคโนโลยีที่ยั่งยืนนี้ Tissot ได้พัฒนานาฬิกาที่มีพลังงานสามารถใช้งานได้เป็นเวลาหลายเดือนโดยไม่จำเป็นต้องชาร์จใหม่
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
เทคโนโลยีระบบสัมผัส
เมื่อ 20 ปีที่แล้ว Tissot ได้พัฒนานาฬิการะบบสัมผัสเรือนแรกขึ้นมา เทคโนโลยีไฮเทคนี้เอื้อต่อเออร์โกโนมิกส์ของนาฬิกา โดยทำให้นาฬิกาสามารถใช้งานได้ง่ายและไม่เหมือนใคร เทคโนโลยีนี้นำเสนอฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ได้แก่ เข็มทิศ มาตรวัดระดับความสูง รายงานสภาพอากาศ นาฬิกาปลุก นาฬิกาจับเวลา - โดยไม่ต้องมีปุ่มกดจำนวนมากและเมนูย่อยที่ซับซ้อน
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
COSC
Tissot มีบริการนาฬิกาที่ได้รับการรับรอง “ซีโอเอสซี” (COSC) กล่าวคือ ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในฐานะโครโนมิเตอร์ (chronometer) หนั้งสือรับรองนี้ออกให้โดยสถาบันทดสอบโครโนมิเตอร์อย่างเป็นทางการแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Contrôle Officiel Suisse des Chronomètres) ซึ่งดำเนินการประเมินเครื่องนาฬิกาอย่างเข้มงวดที่สุดเป็นระยะเวลา 15 วัน เพื่อทดสอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความเที่ยงตรง การป้องกันสนามแม่เหล็ก รวมทั้งการทนทานต่อแรงกระแทก
Image no contractual
;Blur=4&q=1)
สายนาฬิกาแบบเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง
ทิสโซต์นำเสนอนาฬิกาพร้อมระบบสายนาฬิกาที่สามารถเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ ระบบปลดล็อกที่ง่ายช่วยให้สามารถถอดสายนาฬิกาได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ สายนาฬิกาที่สามารถเปลี่ยนเองได้เป็นอุปกรณ์เสริมที่ดี ทำให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในการปรับแต่งนาฬิกาของท่านให้เหมาะกับแต่ละโอกาสด้วยสองคลิกง่าย ๆ
Image no contractual